จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ รายงานจากท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่า: “ใครก็ตามที่กล่าวตัสบีห์ (สุบหานัลลอฮ์) หลังจากการ...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อธิบายว่าใครก็ตามที่กล่าวหลังจากการละหมาดฟัรฎู ว่า: "สุบหานัลลอฮ์" สามสิบสามครั้ง ความหมายคือ เป็นการให้ความบริส...
จากอบูอุมามะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : "ใครก็ตามที่อ่านอายะฮ์กุรซีย์ทุกครั้งหลังละหมาดฟัร...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "ใครก็ตามที่อ่านอายะฮ์กุรซีย์หลังจากเสร็จสิ้นการละหมาดฟัรฎ จะไม่มีสิ่งใดขัดขวางเขาจากการเข้าสู่สวรรค์ยกเว...
ท่านอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า: ฉันได้จำมาจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับสิบร็อกอะฮ์ สองร็อกอะฮ์ก่อนซุฮร์ สองร็อกอะฮ์หลัง...
ท่านอับดุลลอฮ์ บิน อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้อธิบายถึงการละหมาดสุนนะฮ์ต่างๆ ที่ท่านได้จำมาจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ซึ่งมีทั้งหมดสิบร็...
จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ มารดาแห่งศรัทธาชน เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่ทิ้งสี่ร็อกอะห์ก่อนซุฮรี่และสองร็อกอะฮ์ก่อนรุ่...
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา รายงานว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ทำการละหมาดโดยสมัครใจเป็นประจำในบ้านของเธอ และไม่ทิ้งมันเลย คือ: สี่ร...
จากอับดุลลอฮ์ บิน มุฆ๊อฟฟัล เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “ระหว่างทุก ๆ สองอะซาน มีการละหมาด ระหว่างทุก...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ทรงอธิบายไว้ว่าระหว่างการอาซานและอิกอมะฮ์ทุกครั้ง จะมีการละหมาดโดยสมัครใจ(ละหมาดซุนนะฮ์) ท่านได้กล่าวซ้ำสามครั้ง แล...

จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ รายงานจากท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่า: “ใครก็ตามที่กล่าวตัสบีห์ (สุบหานัลลอฮ์) หลังจากการละหมาดทุกเวลาสามสิบสามครั้ง และกล่าวตะห์มีด(อัลหัมดุลิลลาฮ์) สามสิบสามครั้ง และกล่าวตักบีร (อัลลอฮุอักบัร) สามสิบสามครั้ง ซึ่งทั้งหมดนั้นรวมเป็นเก้าสิบเก้าครั้ง และครบหนึ่งร้อยด้วยการที่เขากล่าวว่า: " لَا إِلَهَ إِلَّا اللهُ وَحْدَهُ لَا شَرِيكَ لَهُ، لَهُ الْمُلْكُ وَلَهُ الْحَمْدُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ คำอ่าน: "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮุ วะห์ดะฮู ลา ชะรีกะละฮ์, ละฮุลมุลกุ วะละฮุลหัมดุ วะฮุวา อะลา กุลลิชัยอิน เกาะดีร" เขาจะได้รับการอภัยโทษจากความผิดทั้งหลาย แม้มันจะมีมากเท่าฟองน้ำในท้องทะเลก็ตาม”

จากอบูอุมามะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : "ใครก็ตามที่อ่านอายะฮ์กุรซีย์ทุกครั้งหลังละหมาดฟัรฎห้าเวลา ไม่มีอุปสรรคใดๆ สำหรับเขาที่จะได้เข้าสวรรค์ เว้นแต่ความตายเท่านั้น"

ท่านอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า: ฉันได้จำมาจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับสิบร็อกอะฮ์ สองร็อกอะฮ์ก่อนซุฮร์ สองร็อกอะฮ์หลังจากนั้น สองร็อกอะฮ์หลังละหมาดมัฆริบในบ้านของท่าน และสองร็อกอะฮ์หลังละหมาดอีชาอ์ในบ้านของท่าน และสองร็อกอะฮ์ก่อนละหมาดศุบฮ์ ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่มีใครเข้ามาหาท่าน ท่านหญิงฮัฟเศาะฮ์ได้บอกฉันว่า: เมื่อมุอัซซินได้ทำการประกาศให้มาละหมาดและเวลาฟัจร์ได้มาถึง ท่านก็จะทำการละหมาดสองร็อกอะฮ์ และในบางรายงาน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะละหมาดสองร็อกอะฮ์หลังละหมาดวันศุกร์.

จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ มารดาแห่งศรัทธาชน เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่ทิ้งสี่ร็อกอะห์ก่อนซุฮรี่และสองร็อกอะฮ์ก่อนรุ่งเช้า

จากอับดุลลอฮ์ บิน มุฆ๊อฟฟัล เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “ระหว่างทุก ๆ สองอะซาน มีการละหมาด ระหว่างทุก ๆ สองอะซาน มีการละหมาด” จากนั้นท่านก็กล่าวในครั้งที่สาม: “สำหรับผู้ที่ประสงค์”

จากท่านอบูเกาะตาดะฮ์ อัสสุละมีย์ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ เล่าว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "หากคนใดคนหนึ่งจากพวกท่านเข้าไปในมัสยิด เขาควรละหมาดสองร๊อกอะฮ์ก่อนที่จะนั่งลง"

จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: หากคุณกล่าวแก่เพื่อนของคุณว่า "จงเงียบ" ในวันศุกร์ ขณะที่อิหม่ามกำลังอ่านคุฏบะฮ์ แสดงว่าคุณได้ทำให้ผลบุญของการละหมาดวันศุกร์นั้นเป็นโมฆะ"

จากท่านอิมรอน บินหุศ็อยน์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ครั้งหนึ่งฉันเป็นโรคริดสีดวงทวาร ฉันจึงถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับการละหมาด ท่านกล่าวว่า: “เจ้าจงละหมาดในสภาพที่ยืน หากไม่สามารถยืนได้ก็ให้นั่ง หากไม่สามารถนั่งได้ก็ให้นอนตะแคง”

จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “การละหมาดในมัสยิดของฉันนี้ดีกว่าการละหมาดหนึ่งพันครั้งในที่อื่น ยกเว้นมัสยิดอัลหะรอม”

จากท่านมะห์มูด บิน ละบีบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ : ท่านอุษมาน บิน อัฟฟาน ต้องการสร้างมัสยิด แต่ผู้คนต่างไม่เห็นด้วย และพวกเขาต้องการให้ปล่อยทิ้งไว้อยู่ในสภาพนั้น ท่านจึงกล่าวว่า: ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า "ผู้ใดทำการสร้างมัสยิดหลังหนึ่งเพื่ออัลลอฮ์ อัลลอฮ์จะสร้างให้แก่เขาหลังหนึ่งเท่ามัสยิดนั้นในสวรรค์".

จากอบูฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “ไม่มีเจ้าของทองและเจ้าของเงินคนใดที่ไม่ยอมจ่ายสิทธิของมัน(จ่ายซะกาต) เว้นแต่ในวันกิยามะฮ์จะมีแท่นหลายแท่นทำจากไฟนรก ถูกทำขึ้นสำหรับเขา แล้วมันจะถูกเผาให้ร้อนในไฟนรกญะฮันนัม แล้วถูกนำมานาบที่สีข้างของเขา และหน้าผากของเขา เเละหลังของเขา ทุกครั้งที่มันเย็นลง มันจะถูกนำมาทำให้ร้อนซ้ำแก่เขาอีก ในวันหนึ่งที่ความยาวนานของมันเท่ากับห้าหมื่นปี จนกระทั่งการพิพากษาระหว่างปวงบ่าวได้เสร็จสิ้นลง เขาจึงจะได้เห็นเส้นทางของเขา ว่าจะไปสู่สวรรค์หรือไม่ก็ไปยังนรก”

จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : "การบริจาคทานนั้นมิได้ทำให้ทรัพย์สินลดน้อยลง และอัลลอฮ์จะไม่ทรงเพิ่มพูนสิ่งใดให้แก่บ่าวคนหนึ่งที่ให้อภัยต่อผู้อื่น นอกจากเกียรติยศ และจะไม่มีผู้ใดที่นอบน้อมถ่อมตนต่ออัลลอฮ์ นอกจากอัลลอฮ์จะทรงยกเขา"