จากท่านบุรัยดะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "แท้จริงพันธสัญญาระหว่างเรากับพวกเขาคือการละหมาด...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อธิบายว่าพันธสัญญาและข้อตกลงระหว่างมุสลิมกับผู้ปฏิเสธศรัทธา และมุนาฟิกีนนั้น คือการละหมาด ดังนั้นใครก็ตามที่ละทิ้งม...

จากท่านบุรัยดะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "แท้จริงพันธสัญญาระหว่างเรากับพวกเขาคือการละหมาด ดังนั้นใครก็ตามที่ละทิ้งมัน แท้จริงเขาได้ปฏิเสธศรัทธา"

จากท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: ฉันได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "แท้จริงสิ่งที่ทำให้บุคคลหนึ่งเข้าสู่การตั้งภาคีและการปฏิเสธศรัทธานั้นคือการละทิ้งละหมาด"

จากท่าน ซาลิม บิน อบี อัลญะอ์ดิ กล่าวว่า: มีชายคนหนึ่งกล่าวว่า: "ฉันหวังว่าฉันจะได้ละหมาดและและได้พักผ่อน" แต่เหมือนผู้คนจะไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของเขา เขาจึงกล่าวว่า: "ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: 'โอ้ บิลาล เอ๋ย จงอิกอมะฮ์เพื่อทำการละหมาด และเราได้พักผ่อนไปกับมัน'"

จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: "ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งหลังจากตักบีรในเวลาละหมาด ก่อนที่จะอ่าน (อัล-ฟาติฮะห์) จากนั้นฉันก็ถามว่า "โอ้ ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ด้วยบิดาและมารดาของฉันเป็นค่าไถ่สำหรับท่าน ท่านคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการนิ่งเงียบของท่านระหว่างการตักบีรและการอ่าน (อัลฟาติหะฮ์) ท่านกำลังอ่านอะไรหรือเปล่า?" ท่านตอบว่า "ฉันกล่าวว่า" «اللهُمَّ بَاعِدْ بَيْنِي وَبَيْنَ خَطَايَايَ كَمَا بَاعَدْتَ بَيْنَ الْمَشْرِقِ وَالْمَغْرِبِ، اللهُمَّ نَقِّنِي مِنْ خَطَايَايَ كَمَا يُنَقَّى الثَّوْبُ الْأَبْيَضُ مِنَ الدَّنَسِ، اللهُمَّ اغْسِلْنِي مِنْ خَطَايَايَ بِالثَّلْجِ وَالْمَاءِ وَالْبَرَدِ» ความว่า "โอ้อัลลอฮ์ โปรดทำให้ระหว่างฉันกับความผิดพลาดของฉันได้ห่างออกจากกัน ดังเช่นที่พระองค์ทรงทำให้ระยะห่างระหว่างตะวันออกกับตะวันตก โอ้อัลลอฮ์ โปรดทรงชำระฉันให้พ้นจากความผิดของฉัน ดังเช่นผ้าขาวที่ถูกขจัดคราบสกปรกออกไป โอ้ อัลลอฮ์ โปรดทรงชำระล้างฉันจากความผิดของฉันด้วยน้ำ หิมะ และลูกเห็บ ด้วยเถิด"

จากท่านอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ท่านจะยกมือทั้งสองของท่านเสมอบ่าเมื่อท่านเริ่มทำการละหมาด และตอนกล่าวตักบีร (อัลลอฮุอักบัร) เมื่อท่านต้องการรุกัวอ์ และท่าน(จะยกมือเหมือนตอนตักบีร) เช่นกันเมื่อท่านเงยขึ้นจากรุกัวอ์ และท่านจะกล่าว "ซะมิอัลลอฮุ ลิมันหะมิดะฮ์ ร็อบบะนา วะละกัลหัมดุ" และท่านจะไม่ทำเช่นนั้น(ไม่ยกมือ)เวลาสุญูด.

จากอุบาดะฮ์ บิน อัศศอมิต เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "การละหมาดนั้นใช้ไม่ได้สำหรับผู้ที่ไม่อ่านอัลฟาติหะฮ์"

จากอบูฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เข้าไปในมัสยิด และชายคนหนึ่งได้เข้าไปละหมาด จากนั้นได้ให้สลามต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ดังนั้นท่านจึงตอบกลับสลามและกล่าวว่า: “เจ้าจงกลับไปละหมาดใหม่ เพราะแท้จริงแล้วเจ้ายังไม่ได้ละหมาด” ดังนั้นเขาจึงกลับไปละหมาดใหม่ดั่งที่เขาเคยละหมาด แล้วเขาก็มาให้สลามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ท่านก็ตอบกลับว่า: “เจ้าจงกลับไปละหมาดใหม่ เพราะแท้จริงแล้วเจ้ายังไม่ได้ละหมาด” ถึงสามครั้ง แล้วชายคนนั้นก็ได้กล่าวว่า: "ขอสาบานต่อผู้ที่ส่งท่านมาพร้อมกับความจริงว่า ฉันไม่สามารถทำสิ่งใดได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้นโปรดสอนฉันด้วยเถิด และท่านก็กล่าวว่า: “เมื่อเจ้ายืนขึ้นเพื่อละหมาด จงกล่าว “อัลลอฮ์ อักบัร” จากนั้นให้อ่านสิ่งที่ง่ายสำหรับเจ้าจากอัลกุรอาน แล้วจงรุกัวะจนกว่าท่านจะสงบในท่ารุกัวะ จากนั้นจงยืนขึ้นจนกระทั่งหลังของท่านตรง จากนั้นจงสุญูดจนกระทั่งท่านสงบในท่าสุญูด แล้วจงเงยหน้าขึ้นจนกระทั่งท่านสงบในท่านั่ง และจงปฏิบัติเช่นนี้ในทุกส่วนของการละหมาดของท่านทั้งหมด”

จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ รายงานว่า: ท่านนบีจะกล่าวตักบีรทุกครั้งในการละหมาดฟัรฎุและละหมาดอื่นๆ ไม่ว่าจะในช่วงเดือนรอมฎอนและนอกเดือนรอมฎอน ท่านจะกล่าวตักบีรเมื่อลุกขึ้นและกล่าวตักบีรเมื่อทำการรูกูั๊วะ แล้วท่านจะกล่าวว่า "สะมิอัลลอฮุ ลิมัน หะมิดะฮุ" (อัลลอฮ์ทรงฟังผู้ที่สรรเสริญพระองค์) จากนั้นท่านจะกล่าวว่า"รอบบะนา วะละกัลหัม" (ข้าแต่พระเจ้าของเรา การสรรเสริญจงมีแด่พระองค์) ก่อนที่จะสุญูด จากนั้นท่านจะกล่าว "อัลลอฮุ อักบัร" ขณะที่ลงไปสุญูด จากนั้นจะกล่าวตักบีรเมื่อเงยศีรษะขึ้นจากการสุญูด แล้วกล่าวตักบีรเมื่อสุญูด และจากนั้นกล่าวตักบีรเมื่อลุกขึ้นจากการสุญูด แล้วกล่าวตักบีรเมื่อลุกขึ้นจากท่านั่งทั้งสองครั้ง ท่านจะทำเช่นนั้นในทุกๆ ร็อกอะฮ์ จนกว่าจะเสร็จสิ้นการละหมาด จากนั้นท่านก็กล่าวขณะที่กำลังจะจากไปว่า: "ขอสาบานต่อผู้ซึ่งชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ แท้จริงฉันเป็นผู้ที่ใกล้เคียงที่สุดในหมู่พวกท่านด้านความคล้ายกับการละหมาดของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นี่เป็นการละหมาดของท่านจนท่านจากโลกนี้ไป"

จากท่านอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “ฉันได้รับบัญชาให้สุญูดบนกระดูกเจ็ดชิ้น บนหน้าผาก แล้วท่านก็ชี้ด้วยมือของท่านไปที่จมูกของท่าน มือทั้งสอง เข่าทั้งสอง และปลายนิ้วของเท้าทั้งสอง และเราจะไม่จัดให้เสื้อผ้าและผมของเราเข้าด้วยกัน”

จากอบูอุมามะห์ กล่าวว่า: อัมร์ บิน อะบะซะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ บอกฉันว่าเขาได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “พระผู้อภิบาลจะทรงอยู่ใกล้บ่าวมากที่สุดคือตอนท้ายของกลางดึก ดังนั้นหากเจ้าสามารถอยู่ในหมู่ผู้ที่ระลึกถึงพระเจ้าในเวลานั้นได้ ก็จงเป็นเสียเถิด”

จากท่านญะรีร บิน อับดุลลอฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: เราอยู่กับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และคืนหนึ่งท่านมองดูดวงจันทร์ –หมายถึงคืนพระจันทร์เต็มดวง- แล้วท่านก็กล่าวว่า “แท้จริง พวกเจ้าจะเห็นพระเจ้าของพวกเจ้าเหมือนที่พวกเจ้าเห็นดวงจันทร์ดวงนี้ ซึ่งไม่มีความลำบากใดๆ กับพวกเจ้าในการมองเห็นพระองค์ “ดังนั้น หากพวกเจ้ามีความสามารถที่จะไม่พลาดการละหมาดก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นและก่อนดวงอาทิตย์ตกได้ ก็จงทำเถิด!” จากนั้นท่านก็อ่านโองการของอัลลอฮ์ที่ว่า: “{وَسَبِّحْ بِحَمْدِ رَبِّكَ قَبْلَ طُلُوعِ الشَّمْسِ وَقَبْلَ الْغُرُوبِ } ความว่า: "และจงสรรเสริญพระผู้อภิบาลของเจ้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นและก่อนดวงอาทิตย์ตก"

จากอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า: "แท้จริง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อ่านในร็อกอะฮ์ทั้งสองแห่งฟัจญ์ริ (ละหมาดซุนนะฮ์ก่อนละหมาดฟัจญ์ริ): (กุลยาอัยยุฮัลกาฟิรูน) ความว่า {จงกล่าวเถิด โอ้ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย} และ (กุลฮุวัลลอฮุอะหัด) ความว่า {จงกล่าวว่า พระองค์อัลลอฮ์คือ พระเจ้าหนึ่งเดียว}