จากอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ บิน อัลอาศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า เขาได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “เมื่อพวกเจ้าได้ยินผู...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ชี้แนะว่า ใครก็ตามที่ได้ยินผู้ที่ประกาศเรียกสู่การละหมาด ก็ให้กล่าวตามหลังเขาและให้กล่าวเหมือนอย่างที่เขากล่าว ย...
จากซะอัด บิน อบูวักก็อศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: "ผู้ใดที่กล่าวในตอนที่เขาได้ยินผู้อาซาน ว่า (أَش...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เล่าว่า ผู้ใดที่กล่าวในตอนที่เขาได้ยินผู้อาซาน ว่า "أشهد أن لا إله إلا الله وحده لا شريك له" หมายถึง ฉันยืนยันและยอ...
จากญาบิร บิน อับดุลลอฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “ผู้ใดก็ตามที่กล่าว เมื่อเขาได้ยินการเรียกร้อง...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อธิบายว่า ผู้ใดก็ตามที่กล่าวเมื่อเขาได้ยินคนอะซานทำการอะซานเสร็จแล้ว ว่า: (โอ้ อัลลอฮ์ ผู้เป็นพระเจ้าของการเชิญช...
จากท่านอนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า : ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : "การวิงวอน (ดุอาอ์) จะไม่ถูกปฏิเสธระหว่างช่วงเวลาอะซ...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้อธิบายถึงความประเสริฐของการวิงวอนขอช่วงเวลาระหว่างอะซานกับอิกอมะฮ์ โดยที่มันไม่ถูกปฏิเสธและได้รับการตอบรับ ดังนั...
จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: “มีชายตาบอดคนหนึ่งได้มาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แล้วกล่าวว่า โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็...
ชายตาบอดคนหนึ่งมาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และกล่าวว่า โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ฉันไม่มีใครที่จะช่วยฉันและจูงมือฉันไปที่มัสยิดเพื่อละหมาดห้าเวล...

จากอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ บิน อัลอาศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า เขาได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “เมื่อพวกเจ้าได้ยินผู้ที่ประกาศเรียกสู่การละหมาด ก็จงกล่าวตามอย่างที่เขากล่าว แล้วจงทำการเศาะละวาตต่อฉัน เพราะผู้ใดทำการเศาะละวาตต่อฉันหนึ่งครั้ง อัลลอฮ์จะทำการเศาะละวาตแก่เขาสิบครั้ง จากนั้นก็จงขอต่ออัลลอฮ์ซึ่งสถานะหนึ่งให้แก่ฉัน แท้จริงมันเป็นตำแหน่งหนึ่งในสวรรค์ที่ไม่คู่ควรกับใครนอกจากผู้เป็นบ่าวคนหนึ่งจากบ่าวของอัลลอฮ์เท่านั้น และฉันหวังว่าบ่าวคนนั้นจะเป็นฉัน ดังนั้นใครก็ตามที่ขอสถานะนั้นให้แก่ฉัน การชะฟาอะฮ์จะเป็นที่อนุญาตสำหรับเขา”

จากซะอัด บิน อบูวักก็อศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: "ผู้ใดที่กล่าวในตอนที่เขาได้ยินผู้อาซาน ว่า (أَشْهَدُ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللهُ وَحْدَهُ لَا شَرِيكَ لَهُ، وَأَنَّ مُحَمَّدًا عَبْدُهُ وَرَسُولُهُ، رَضِيتُ بِاللهِ رَبًّا وَبِمُحَمَّدٍ رَسُولًا، وَبِالْإِسْلَامِ دِينًا) เขาจะได้รับการอภัยโทษ

จากญาบิร บิน อับดุลลอฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “ผู้ใดก็ตามที่กล่าว เมื่อเขาได้ยินการเรียกร้อง(การอาซาน) ว่า: (อัลลอฮุมมา ร็อบบะฮาสิหิดดะฮ์ วะติดตามมะฮ์ วัศเศาะลา ติลกออิมะฮ์ อาติ มุฮัมมะดะนิล วะซีละฮ์ วัลฟะดีละฮ์ วับอัษหุ มะกอมัม มะห์มู ดะนิลละซี วะอัดตะฮ์) ความว่า "โอ้พระเจ้าผู้เป็นเจ้าของการวิงวอนนี้(การอาซาน) และการละหมาดที่มั่นคง จงให้ได้มายังมูฮัมหมัดซึ่ง วาซีละห์(การใกล้ชิดพระองค์ หรือ ระดับชั้นในสวรรค์) และความประเสริฐเหนือผู้อื่น และจงให้เขาฟื้นคืนชีพในสถานที่ที่มีเกียรติ ที่พระองค์ทรงได้สัญญาไว้" เขาผู้นั้นจะได้รับการช่วยเหลือ(ชะฟาอะฮ์)จากฉันในวันโลกหน้า”

จากท่านอนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า : ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : "การวิงวอน (ดุอาอ์) จะไม่ถูกปฏิเสธระหว่างช่วงเวลาอะซานและอิกอมะห์"

จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: “มีชายตาบอดคนหนึ่งได้มาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แล้วกล่าวว่า โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แท้จริง ฉันไม่มีผู้ช่วยประคองฉันเวลาฉันจะไปไปมัสญิด หลังจากนั้น เขาจึงขอท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อนุโลมให้เขาละหมาดที่บ้าน แล้วท่านก็อนุโลมให้ แต่พอชายคนนั้นหันหลังไปเพื่อจะกลับบ้าน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็เรียกเขามาอีกครั้งแล้วถามว่า “ท่านได้ยินเสียงอะซานเรียกมาละหมาดหรือไม่?” ชายคนนั้นตอบว่า ใช่ ได้ยิน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็กล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านจำเป็นต้องตอบรับเสียงอะซาน”

จากอบูฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า เขาได้ยิน ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "พวกเจ้าไม่เห็นหรอกหรือว่า หากมีลำธารไหลผ่านหน้าบ้านของพวกเจ้าคนหนึ่ง โดยที่เขาอาบน้ำชำระร่างกายในลำธารนั้นห้าครั้งต่อวัน เจ้าจะคิดอย่างไร จะมีสิ่งสกปรกติดอยู่อีกไหม?" พวกเขากล่าวว่า จะไม่มีสิ่งสกปรกติดอยู่อีกเลย ท่านนบีกล่าวว่า "เช่นเดียวกับการละหมาดห้าเวลา ที่อัลลอฮ์จะทรงลบล้างบาป"

จากท่าน อับดุลลอฮ์ บิน มัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า : ฉันถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่า: งานใดที่อัลลอฮ์รักมากที่สุด? ท่านตอบว่า “การละหมาดตามเวลาของมันที่กำหนดไว้” เขากล่าวว่า แล้วอะไรอีก? ท่านตอบว่า: “จากนั้นคือการทำความดีต่อพ่อแม่” เขากล่าวว่า: แล้วอะไรอีก? ท่านตอบว่า “การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์” เขากล่าวว่า เขาเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น และหากฉันถามอีก แน่นอน ท่านต้องกล่าวเพิ่มให้แก่ฉันอีก.

จากอุษมาน เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "ไม่มีมุสลิมคนใดที่เมื่อเข้าเวลาละหมาดฟัรฎู แล้วเขาอาบน้ำละหมาดอย่างดี แล้วละหมาดอย่างมีสมาธิและรุกูอ์อย่างดี เว้นแต่การละหมาดนั้นจะลบล้างบาปที่ผ่านมา ตราบใดที่เขาไม่กระทำบาปใหญ่ ซึ่งความประเสริฐนี้จะมีอยู่ตลอดเวลา"

จากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "การละหมาดห้าเวลา และระหว่างวันศุกร์หนึ่งไปยังอีกวันศุกร์หนึ่ง และระหว่างเราะมะฎอนหนึ่งไปยังอีกเราะมะฎอนหนึ่ง จะลบล้างความผิดในช่วงระยะเวลาระหว่างนั้น หากว่าเขาออกห่างจากการทำบาปใหญ่"

จากอนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า: "ส่วนใหญ่ของคำสั่งเสียของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึงคือ: รักษาการละหมาด และดูแลสิ่งที่มือขวาของพวกท่านครอบครอง (กล่าวซ้ำสองครั้ง) จนกระทั่งท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวคำเหล่านี้ด้วยเสียงที่กระเส่า และคำพูดแทบจะไม่ออกจากลิ้นของท่าน"

จากอัมรุ บิน ชุอัยบ์ จากพ่อของเขา จากปู่ของเขา กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า: "พวกเจ้าจงใช้บรรดาลูกๆ ของพวกเจ้าให้ละหมาด เมื่อพวกเขามีอายุเจ็ดขวบ และพวกเจ้าจงตีพวกเขาหากพวกเขาไม่ละหมาด เมื่อพวกเขามีอายุสิบขวบและจงแยกห้องนอนระหว่างพวกเขา"

จากท่านอบูฮุรัยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงตรัสว่า: ฉันได้แบ่งการละหมาดระหว่างฉันและบ่าวของฉันออกเป็นสองส่วน และบ่าวของฉันจะได้รับตามที่เขาขอ” ดังนั้นเมื่อบ่าวกล่าวว่า {อัลหัมดุลิลลาฮิร็อบบิลอาละมีน} อัลลอฮ์ตรัสว่า “บ่าวของฉันได้สรรเสริญฉัน” และเมื่อเขากล่าว {อัรเราะห์มานิรเราะหีม} อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า “บ่าวของฉันได้ชมเชยฉัน” แล้วเมื่อเขากล่าวว่า {มาลิกิเยามิดดีน} พระองค์ทรงตรัสว่า “บ่าวของฉันได้เทิดทูนฉัน” -และครั้งหนึ่งพระองค์ ตรัสว่า: บ่าวของฉันได้มอบหมายต่อฉัน- แล้วเมื่อเขากล่าวว่า {อียากะนะอ์บุดุวะอียากะนัสตะอีน} พระองค์ทรงตรัสว่า “สิ่งนี้เป็นเรื่องระหว่างฉันกับบ่าวของฉัน และบ่าวของฉันจะได้รับตามที่เขาขอ” และเมื่อเขากล่าวว่า {อิฮ์ดินัศศิรอฏ็อลมุสตะกีม ศิรอฏ็อลละซีนะอันอัมตะอะลัยฮิม ฆ็อยริลมัฆฎูบิอะลัยฮิม วะลัฎฎอลลีน} พระองค์ทรงตรัสว่า “สิ่งนี้เป็นของบ่าวของฉันและบ่าวของฉันจะได้รับตามที่เขาขอ”