จากอาอีชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “แท้จริงบุคคลที่อัลลอฮ์ทรงกริ้วที่สุดคือ ผู้ที่ชอบโต้เ...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงเกลียดผู้ที่ชอบและดื้อรั้นในการโต้เถียงกัน ซึ่งเขาจะไม่ยอมรับความจริงและพยายามผลักไสด้วย...
จากอบู บักเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “เมื่อมุสลิมสองคนต่อสู้กันเองด้วยดาบของ...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้บอกว่า หากมุสลิมสองคนใช้ดาบเผชิญหน้าต่อสู้กัน ต่างฝ่ายต่างตั้งใจที่จะฆ่าอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นผู้ที่ฆ่าจะต้องเข้าน...
จากท่านอบูมูซา อัลอัชอะรีย์ เราะฎิยัลลอฮ์อันฮุ รายงานว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "ผู้ใดที่ชักอาวุธออกมาเพื่อคุกคามเรา ดังนั้น เข...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เตือนไม่ให้จับอาวุธเพื่อคุกคามมุสลิมด้วยกัน เพื่อข่มขู่พวกเขาหรือปล้นพวกเขา ดังนั้นผู้ใดที่กระทำเช่นนั้นโดยไม่ชอบธร...
จากอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “พวกเจ้าอย่าได้ด่าทอคนที่เสียชีวิตไปแล้ว เพราะพวกเขาได้ไปถึงสิ...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อธิบายถึงข้อห้ามการด่าทอและการดูหมิ่นเกียรติของคนที่ตายไปแล้ว ซึ่งการกระทำแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของมารยาทที่ไม่ดี เพรา...
จากอบู อัยยูบ อัลอันศอรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "ไม่อนุมัติให้ชายคนหนึ่งตัดสัมพันธ์กับพ...
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ห้ามมิให้มุสลิมตัดสัมพันธ์กับพี่น้องของเขาที่เป็นมุสลิมด้วยกันเกินสามคืน โดยที่ทั้งสองได้พบเจอกัน แต่ไม่มีการให้...

จากอาอีชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “แท้จริงบุคคลที่อัลลอฮ์ทรงกริ้วที่สุดคือ ผู้ที่ชอบโต้เถียงกันอย่างรุนแรง”

จากอบู บักเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “เมื่อมุสลิมสองคนต่อสู้กันเองด้วยดาบของทั้งสอง ดังนั้นทั้งผู้ที่ฆ่าและผู้ที่ถูกฆ่าจะถูกลงโทษในนรก” ฉันกล่าวว่า "โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮ์ สำหรับผู้ที่ฆ่านั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แล้วผู้ที่ถูกฆ่าล่ะ?" ท่านตอบว่า: "แท้จริงเขาก็พยายามที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ของเขา"

จากท่านอบูมูซา อัลอัชอะรีย์ เราะฎิยัลลอฮ์อันฮุ รายงานว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "ผู้ใดที่ชักอาวุธออกมาเพื่อคุกคามเรา ดังนั้น เขาไม่ใช่พวกเรา"

จากอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “พวกเจ้าอย่าได้ด่าทอคนที่เสียชีวิตไปแล้ว เพราะพวกเขาได้ไปถึงสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้แล้ว"

จากอบู อัยยูบ อัลอันศอรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: "ไม่อนุมัติให้ชายคนหนึ่งตัดสัมพันธ์กับพี่น้องของเขาเกินสามคืน โดยที่ทั้งสองนั้นเจอกัน แล้วต่างคนต่างหนีหน้ากัน และผู้ที่ประเสริฐกว่าในสองคนนั้นคือผู้ที่เริ่มให้สลามก่อน"

จากท่านซะฮัล บิน สะอ์ดิ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า: "ผู้ใดที่ประกันตนว่าจะรักษาลิ้นและอวัยวะเพศของตนจากการละเมิดได้ ฉันจะรับประกันสวรรค์ให้แก่เขาเอง"

จากอบูซะอีด อัลคุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ -ซึ่งเขาได้เคยร่วมสงครามกับท่านนบี 12 ครั้ง- เขากล่าวว่า "ฉันได้ยินสี่ประการซึ่งทำให้ฉันประทับใจจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ท่านนบีกล่าวว่า: "ผู้หญิงอย่าได้เดินทางเป็นระยะทางสองวัน เว้นแต่จะมีสามีของเธอหรือมะห์ร็อมของเธออยู่ด้วย อย่าได้ถือศีลอดในสองวัน: อัลฟิฏริ และอัลอัฎฮา อย่าได้ละหมาดหลังจากละหมาดศุบฮ์ จนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น และอย่าได้ละหมาดหลังจากละหมาดอัศร์ จนกระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า และอย่าได้ออกเดินทางยกเว้นไปยังมัสยิดสามแห่ง ได้แก่ มัสยิดหะรอม (มักกะฮ์) มัสยิดอัลอักศอ และมัสยิดของฉัน""

จากท่านอุซามะฮ์ บิน ซัยด์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : "ฉันไม่ทิ้งสิ่งใดหลังจากฉัน (เสียชีวิตไปแล้ว) ที่เป็นอันตรายต่อผู้ชายมากไปกว่าผู้หญิง"

จากอับดุลลอฮ์ บิน มัสซูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: เราอยู่กับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และท่านกล่าวว่า: “ ผู้ใดที่สามารถมีความพร้อมในการแต่งงานได้ก็จงแต่งงานเถิด เพราะมันช่วยลดสายตา (จากการมองสิ่งที่ต้องห้าม) และปกป้องอวัยวะเพศได้ดี และผู้ใดที่ไม่สามารถก็ให้ถือศีลอด เพราะการถือศีลอดจะเป็นเกราะป้องกันสำหรับเขา"

จากท่านอบีซะอีด อัลคุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “แท้จริง โลกนี้ช่างหอมหวานและเขียวขจี และแท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงแต่งตั้งพวกเจ้าให้เป็นคอลีฟะฮ์เพื่อจัดการสิ่งที่อยู่ในนั้น แล้วพระองค์จะทรงดูว่าพวกเจ้ากระทำเช่นไร ดังนั้น จงระวังโลกนี้และระวังผู้หญิง เพราะแท้จริง ฟิตนะฮ์แรกที่เกิดขึ้นกับวงศ์วานอิสรออีลก็เนื่องมาจากผู้หญิง”

จากมุอาวิยะฮ์ อัลกุชัยรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ฉันกล่าวว่า: โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ภรรยาของเราคนหนึ่งมีสิทธิอะไรเหนือเขา(สามี) เขากล่าวว่า “เจ้าจะต้องให้อาหารนางเมื่อเจ้ากินอาหาร และเจ้าต้องให้เสื้อผ้านางเมื่อเจ้ามีเสื้อผ้าใช้ หรือ เมื่อเจ้าสามารถหารายได้ได้ และไม่ตบหน้าเธอ และไม่กล่าวคำไม่ดีแก่เธอ และอย่าห่างเธอเว้นแต่อยู่ในบ้าน"

จากอบู สะอีด อัลคุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ออกไปยังสถานที่ละหมาดในช่วงวันอีฎิ้ลอัดฮาหรือวันอีดิลฟิฏริ และเขาได้เดินผ่านบรรดาผู้หญิง แล้วกล่าวว่า : “โอ้บรรดาผู้หญิงทั้งหลาย พวกเธอจงบริจาคกันให้มากเถิด เพราะฉันเห็นว่าพวกเธอส่วนมากเป็นชาวนรก” พวกนางถามว่า: เพราะเหตุใดหรือ โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮ์? ท่านตอบว่า: “เพราะพวกเธอชอบสาปแช่ง และเนรคุณต่อสามี ฉันไม่เคยเห็นผู้มีสติปัญญาน้อยและศาสนาน้อยใดที่สามารถทำให้ผู้ชายที่มีความเด็ดขาดหลงใหลได้เท่ากับพวกเธอ” พวกนางถามต่อว่า: โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮ์ การบกพร่องทางศาสนาและสติปัญญาของพวกเราเป็นเช่นใดหรือ? ท่านตอบว่า: "ก็การเป็นพยานของหญิงคนหนึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่งในการเป็นพยานของผู้ชายไม่ใช่หรือ?" พวกนางตอบว่า: "ใช่" ท่านกล่าวว่า: “นี่แหละคือความบกพร่องทางสติปัญญา และหญิงมีเลือดประจำเดือนนั้นไม่ต้องละหมาดและไม่ต้องถือศีลอดมิใช่หรือ?” นางตอบว่า: "ใช่" ท่านกล่าวว่า: “นี่แหละคือความบกพร่องทางศาสนาของนาง”