หน้าหลัก
เกี่ยวกับเรา
th
English
العربية
español
português
Français
Русский
اردو
azərbaycanca
Ўзбек
Deutsch
Shqip
فلبيني مرناو
براهوئي
български
বাংলা
ဗမာ
bosanski
polski
தமிழ்
ไทย
татар теле
română
isiZulu
سنڌي
සිංහල
Kiswahili
svenska
нохчийн мотт
Soomaali
тоҷикӣ
غجري
Pulaar
Pulaar
Tiếng Việt
قمري
कश्मीरी
한국어
македонски
bahasa Melayu
മലയാളം
magyar
हिन्दी
Hausa
Èdè Yorùbá
ελληνικά
қазақ тілі
فارسی
Türkçe
עברית
中文
Bahasa Indonesia
Wikang Tagalog
dansk
پښتو
Tamazight
አማርኛ
أنكو
ئۇيغۇرچە
Luganda
తెలుగు
日本語
ትግርኛ
غموقي
Кыргызча
नेपाली
Kurdî
italiano
Nederlands
čeština
українська
eesti
suomi
Адыгэбзэ
Norwegian
latviešu
slovenščina
монгол
íslenska
ქართული
tamashaq
ދިވެހި
Հայերէն
slovenčina
Afrikaans
Türkmençe
башҡорт теле
afaan oromoo
ភាសាខ្មែរ
ಕನ್ನಡ
Bassa
Lingala
lietuvių
bamanankan
Soninke
Malagasy
Mandinka
Sängö
Wollof
Cham
Qhichwa simi
Српски
Afaraf
hrvatski
Kinyarwanda
aymar aru
Jóola
Bi zimanê Kurdî
Akan
ଓଡ଼ିଆ
Chichewa
авар мацӀ
Igbo
isiXhosa
मराठी
Fɔ̀ngbè
ગુજરાતી
Mɛnde
ГӀалгӀай
Mõõré
অসমীয়া
Maguindanao
Dagbani
Yao
Ikirundi
Bisaya
Ruáingga
فارسی دری
Sesotho
ਪੰਜਾਬੀ
créole
ພາສາລາວ
หน้าหลัก
เกี่ยวกับเรา
Contact Us
/
“ไม่มีใครที่ทำบาป จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นอาบน้ำละหมาด แล้วทำการละหมาด จากนั้นก็ขอการอภัยโทษจากอัลลอฮ์ นอกจากอัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษให้แก่เขา...
“ไม่มีใครที่ทำบาป จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นอาบน้ำละหมาด แล้วทำการละหมาด จากนั้นก็ขอการอภัยโทษจากอัลลอฮ์ นอกจากอัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษให้แก่เขา...
จากท่านอะลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า “ฉันเป็นคนที่ เมื่อฉันได้ยินหะดีษหนึ่งจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อัลลอฮ์จะทรงให้ประโยชน์แก่ฉันตามที่พระองค์ทรงประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ฉัน และเมื่อมีคนหนึ่งจากเศาะฮาบะฮ์ของท่านได้เล่าให้ฉันฟัง ฉันจะขอให้เขาทำการสาบานก่อน และเมื่อเขาได้ทำการสาบานแล้ว ฉันก็จะเชื่อเขา และอบูบักร์ได้บอกฉัน และอบูบักร์ก็เล่าความจริง เขากล่าวว่า ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “ไม่มีใครที่ทำบาป จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นอาบน้ำละหมาด แล้วทำการละหมาด จากนั้นก็ขอการอภัยโทษจากอัลลอฮ์ นอกจากอัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษให้แก่เขา” หลังจากนั้นท่านก็อ่านโองการที่ว่า {وَالَّذِينَ إِذَا فَعَلُوا فَاحِشَةً أَوْ ظَلَمُوا أَنْفُسَهُمْ ذَكَرُوا اللهَ فَاسْتَغْفَرُوا لِذُنُوبِهِمْ} [آل عمران: 135].ความว่า"{และบรรดาผู้ที่เมื่อพวกเขากระทำความผิดหรืออธรรมต่อตนเองแล้ว พวกเขาก็รำลึกถึงอัลลอฮ์ และขออภัยโทษต่อความผิดของพวกเขา}"(อาลา-อิมรอน:135)
คำอธิบาย
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ไม่มีบ่าวของอัลลอฮ์คนใดที่ทำบาป แล้วทำการอาบน้ำละหมาดอย่างดี จากนั้นลุกขึ้นละหมาดสองร็อกอะฮ์ด้วยเจตนาการเตาบะฮ์จากบาปนั้นของเขา จากนั้นเขาขอการอภัยโทษจากอัลลอฮ์ แน่นอน อัลลอฮ์จะอภัยให้แก่เขา จากนั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็อ่านโองการของอัลลอฮ์ที่ว่า: {และบรรดาผู้ที่เมื่อพวกเขากระทำความผิดหรืออธรรมต่อตนเองแล้ว พวกเขาก็รำลึกถึงอัลลอฮ์ และขออภัยโทษต่อความผิดของพวกเขา และใครเล่าที่จะให้อภัยต่อบรรดาบาปเหล่านั้นได้ เว้นแต่อัลลอฮ์เท่านั้น และพวกเขาจะไม่คงกระทำในความผิดนั้นอีกต่อไปโดยที่พวกเขารู้ดี} ( อาลา อิมรอน : 135)
Hadeeth benefits
ส่งเสริมให้ทำการละหมาด จากนั้นให้ทำการขออภัยโทษหลังจากการทำบาป
ความกว้างขวางแห่งการให้อภัยของอัลลอฮ์ ตะอาลา และการตอบรับการเตาบะฮ์และการขออภัยโทษ
Share
Use the QR code to easily share the message of Islam with others
Copy Link
copied!
ติดต่อเรา
×
ชื่อ
อีเมล์
เนื้อหาข้อความ
ติดต่อเรา
×
ขอบคุณสำหรับข้อความของท่าน .. เราจะนำข้อความของท่านไปพิจารณา อินชาอ์อัลลอฮฺ
Share